“Perpositions” หรือ คำบุพบท คือคำที่ใช้เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่างคำต่าง ๆ ในประโยคไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมกันระหว่างคำนาม คำกริยา หรือคำสรรพนาม เพื่อบอกตำแหน่ง languageสถานที่ เวลา เหตุผล ทิศทาง วิธีการ หรือคน เพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ขึ้นค่ะ ถือเป็นหลักไวยากรณ์ที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวันอยู่แล้วนั้นเอง เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่้ควรต้องทำความเข้าใจอย่างจริงจรัง แต่สำหรับใครที่ยังกังวลว่ายังไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าคืออะไร ต้องใช้ยังไง ดังน้นวันนี้ “KOE Kingdom Of English” เรามีทริคดี ๆ ที่ใช้ได้กับการสอนเด็กทุกวัยมาแบ่งปันค่ะ

หลักการใช้  In, On, At

in on at” ทั้งสามคำนี้เป็คำบุพบท ที่ใช้บ่อยมากในภาษาอังกฤษ ต่างกันออกไปตามบริบท โดยเฉพาะใช้สำหรับบอกเวลา สถานที่ ซึ่งการใช้อย่างถูกต้องตาหลักก็สามารถช่วยให้ประโยคฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

In : หมายถึง “ใน อยู่ข้างใน” ใช้อธิบายถึงสถานที่ในพื้นที่ปิด เช่น ห้อง ตึก อาคาร ภายในวัตถุ หรือเหตุการณ์ในสถานที่ขนาดใหญ่อย่างเมือง ประเทศ

ยกตัวอย่างเช่น

  • I live in Bangkok. (ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ)
  • She is in the room. (เธออยู่ในห้อง)เก้าอี้
  • The keys are in the bag. (กุญแจอยู่ในกระเป๋า)
  • Johnny is in the kitchen. (จอห์นนี่อยู่ในครัว)
  • The cat is in the box. (แมวอยู่ในกล่อง)
  • She is in hospital. (เธออยู่ในโรงพยาบาล)

On : หมายถึง “บน อยู่ข้างบน” โดยหลัก ๆ มักใช้กับตึก อาคาร ถนน รถหรือยานพาหนะที่ยืนได้ หรือบอกว่าเรากำลังอยู่บนพื้นผิวนั้น หรือการอ้างถึงวัน เวลา สถานการณ์ต่าง ๆ 

ยกตัวอย่างเช่น

  • The book is on the table. (หนังสืออยู่บนโต๊ะ)
  • He sat on the bench. (เขานั่งบนม้านั่ง)
  • The cat is on the box. (แมวอยู่บนกล่อง)
  • He often goes to the gym on Monday. (เขามักจะไปยิมในวันจันทร์)
  • She went to the mall on weekends. (หล่อนได้ไปห้างมาในวันหยุด)
  • He is sitting on a chair. (เขานั่งอยู่บนเก้าอี้)

At : หมายถึง “ที่” ที่ใช้ระบุสถานที่, เวลา เหตุการณ์ ใช้กับกิจกรรมเฉพาะ ใช้บอกระดับหรือสถานะ หรือ จุดที่เฉพาะเจาะจง หรือบอกสถานที่ ที่สามารถบอกได้อย่างเจาะจงชัดเจน บอกทิศทางหรือเป้าหมาย

ยกตัวอย่างเช่น

  • I’m meeting her at the cafe. (ฉันจะไปเจอเธอที่คาเฟ่)
  • The party starts at 8 p.m. (งานปาร์ตี้เริ่มตอน 8 โมงเย็น)
  • She is at the park. (เธออยู่ที่สวน)
  • He’s waiting at the bus stop. (เขากำลังรออยู่ที่ป้ายรถเมล์)
  • We met at the corner. (เราเจอกันที่หัวมุม)
  • He is laughing at your joke. (เขากำลังหัวเราะกับมุกตลกของคุณ)

ทริคในการจำ

  • at ใช้กับสถานที่หรือจุดที่เจาะจง เช่น at the door, at the table
  • แต่ถ้าพูดถึง “พื้นที่กว้างกว่า” เช่น เมือง ประเทศ หรือทวีป จะใช้ in
  • At the station (เจาะจงสถานีใด สถานีหนึ่ง)
  • In Bangkok (พื้นที่กว้างกว่าคือเมือง)

คำบุพบท คือคำที่ใช้เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่างคำต่าง ๆ ในประโยคไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมกันระหว่างคำนาม คำกริยา หรือคำสรรพนาม เพื่อบอกตำแหน่ง languageสถานที่ เวลา เหตุผล ทิศทาง วิธีการ หรือคน เพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ขึ้นค่ะ ถือเป็นหลักไวยากรณ์ที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

คำบุพบทบอกสถานที่ “in”

“in” (อยู่ข้างใน) เป็นคำบุพบทที่ใช้ในการบ่งบอกสถานที่ เมื่อกล่าวถึงพื้นที่หรือสถานที่ที่มีลักษณะเป็น พื้นที่ปิดล้อม หรือ พื้นที่กว้างใหญ่ที่อยู่ภายใน หรือภายในขอบเขตของบางสิ่งบางอย่างค่ะ โดยทั่วไปเราจะใช้ “in” เมื่อใช้บอกถึง

ใช้บอกสถานที่ในพื้นที่ปิดล้อมชัดเจน เช่น ห้อง, บ้าน, รถ, กล่อง, กระเป๋า

  • The book is in the bag. (หนังสืออยู่ในกระเป๋า)
  • She is in her room. (เธออยู่ในห้องของเธอ)
  • The statue is in the corner of the room. (รูปปั้นอยู่มุมห้อง)

ใช้บอกสถานที่ในพื้นที่กว้างใหญ่ เช่น เมือง, ประเทศ, ป่า, ทะเล

  • I live in Bangkok. (ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ)
  • They are swimming in the sea. (พวกเขากำลังว่ายน้ำในทะเล)
  • He is in the middle of the park. (เขาอยู่กลางสวน)

ใช้กับยานพาหนะที่มีลักษณะปิดล้อม เช่น รถยนต์ รถไฟ 

  • She is sitting in the car. (เธอนั่งอยู่ในรถ)
  • He left his bag in the train. (เขาลืมกระเป๋าไว้ในรถไฟ)

ข้อยกเว้น : ใช้ on แทนสำหรับยานพาหนะที่เป็นพื้นที่เปิด เช่น รถบัส เรือ หรือเครื่องบิน

  • On the bus.
  • On the plane. 
  • On the boat.

ใช้กับช่วงเวลา เช่น เดือน, ปี, ฤดู

  • It’s cold in winter. (อากาศหนาวในฤดูหนาว)
  • My birthday is in March. (วันเกิดของฉันอยู่ในเดือนมีนาคม)

ใช้กับสำนวนหรือคำเฉพาะหรือวลี

  • In the morning/afternoon/evening (ในตอนเช้า/บ่าย/เย็น)
  • In the past/future (ในอดีต/อนาคต)
  • In bed (บนเตียง)
  • In love (มีความรัก)

สรุปง่าย ๆ 

“in” ใช้กับสถานที่ที่อยู่ ภายใน หรือ ภายในขอบเขต ของสิ่งนั้น พื้นที่กว้าง และ ช่วงเวลา

ตัวอย่างประโยคเพิ่มเติม

  • There is a cat in the box. (มีแมวอยู่ในกล่อง)
  • The key is in the drawer. (กุญแจอยู่ในลิ้นชัก)
  • I’m going to meet you in the park. (ฉันจะไปเจอคุณที่สวนสาธารณะ)

“in on at” ทั้งสามคำนี้เป็คำบุพบท ที่ใช้บ่อยมากในภาษาอังกฤษ ต่างกันออกไปตามบริบท โดยเฉพาะใช้สำหรับบอกเวลา สถานที่ ซึ่งการใช้อย่างถูกต้องตาหลักก็สามารถช่วยให้ประโยคฟังดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

คำบุพบทบอกสถานที่ “on”

on (บน) เป็นคำบุพบทที่ใช้ในการระบุตำแหน่งบน หรือ เหนือ สิ่งของหรือพื้นผิวทางกายภาพ  สถานที่ ตำแหน่งที่อยู่บนบางสิ่งเมื่อบอกถึง

ใช้บอกตำแหน่งบนพื้นผิว เมื่อพูดถึงบางสิ่งที่อยู่ “บน” พื้นผิวของอีกสิ่งหนึ่ง

  • The book is on the table. (หนังสืออยู่บนโต๊ะ)
  • There’s a picture on the wall. (มีรูปภาพอยู่บนผนัง)
  • She put the keys on the shelf. (เธอวางกุญแจไว้บนชั้นวาง)

ใช้บอกตำแหน่งบนยานพาหนะ ที่มีพื้นที่เปิดโล่ง หรือเป็นระบบขนส่งขนาดใหญ่ เช่น รถบัส เรือ รถไฟ เครื่องบิน

  • He’s on the bus. (เขาอยู่บนรถบัส)
  • They are on the plane. (พวกเขาอยู่บนเครื่องบิน)
  • I left my bag on the train. (ฉันทิ้งกระเป๋าไว้บนรถไฟ)

ยกเว้น : ใช้ “in” สำหรับยานพาหนะที่มีลักษณะปิดล้อม เช่น รถยนต์ เช่น in the car, in the taxi

ใช้บอกตำแหน่งในแผนที่ หรือบนถนน 

  • The shop is on Main Street. (ร้านอยู่บนถนนเมน)
  • Her house is on the corner of the street. (บ้านของเธออยู่ตรงหัวมุมถนน)
  • This city is on the map. (เมืองนี้อยู่บนแผนที่)

ใช้ในสำนวนที่ควรจดจำ

  • On the way (ระหว่างทาง)
  • On time (ตรงเวลา)
  • On holiday (ในช่วงวันหยุด)
  • On the top of (อยู่บนยอดของ)

คำบุพบทบอกสถานที่ “at”

At (ที่) เป็นคำบุพบทบอกสถานที่ ที่ใช้กับพื้นที่หรือสถานที่ เจาะจงชัดเจน หรือ เป็นจุด โดยเน้นถึงความเฉพาะเจาะจงมากกว่าคำบุพบทอื่น

ใช้บอกตำแหน่งที่เจาะจง เมื่อพูดถึงตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง หรือเป็นจุดที่ชัดเจน

  • She is at the door. (เธออยู่ที่ประตู)
  • They are waiting at the station. (พวกเขากำลังรออยู่ที่สถานี)
  • He’s at the top of the mountain. (เขาอยู่บนยอดเขา)

ใช้กับสถานที่ ที่มีการทำกิจกรรมเฉพาะ เช่น งานอีเวนต์ หรือสถานที่อื่นที่ไปเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ

  • She’s at school. (เธออยู่ที่โรงเรียน)
  • He’s at the party. (เขาอยู่ที่งานเลี้ยง)
  • They met at the wedding. (พวกเขาเจอกันที่งานแต่งงาน)

ใช้กับสถานที่ที่มีจุดสำคัญ พูดถึงสถานที่สำคัญ เช่น หัวมุม ถนน สถานี

  • Let’s meet at the corner. (ไปเจอกันที่หัวมุมถนน)
  • The car is parked at the entrance. (รถจอดอยู่ที่ทางเข้า)

ใช้กับเป้าหมาย คำสั่ง หรือทิศทางspecific points

  • He threw the ball at me. (เขาขว้างลูกบอลมาที่ฉัน)
  • She looked at the painting. (เธอมองไปที่ภาพวาด)
  • Don’t shout at him. (อย่าตะโกนใส่เขา)

ใช้ในสำนวนหรือคำเฉพาะ

  • At home (อยู่ที่บ้าน)
  • At work (อยู่ที่ทำงาน)
  • At the moment (ในขณะนี้)
  • At ease (สบายใจ)

“in” (อยู่ข้างใน) เป็นคำบุพบทที่ใช้ในการบ่งบอกสถานที่ เมื่อกล่าวถึงพื้นที่หรือสถานที่ที่มีลักษณะเป็น พื้นที่ปิดล้อม หรือ พื้นที่กว้างใหญ่ที่อยู่ภายใน หรือภายในขอบเขตของบางสิ่งบางอย่างค่ะ

หลักการใช้under, next to

หลักการใช้ “under” และ “next to” ที่เป็นคำบุพบทที่ใช้บ่งบอกตำแหน่งหรือสถานที่ของสิ่งของ 

“Under” (ใต้) มักใช้เพื่อบอกว่ามีสิ่งหนึ่งอยู่ใต้ หรืออยู่ข้างล่าง อีกสิ่งหนึ่ง จะใช้กับคน สัตว์ หรือสิ่งของก็ได้ เช่น 

  • The cat is under the table. (แม่อยู่ใต้โต๊ะ)
  • The book is under the chair. (หนังสืออยู่ใต้เก้าอี้)
  • The cat is under the box. (แมวอยู่ใต้กล่อง)

“Next to” (ถัดจาก ถัดไป)  มักใช้เพื่อบอกตำแหน่งว่ามีสิ่งหนึ่งอยู่ใกล้เคียงหรืออยู่ติดกับอีกสิ่งหนึ่งข้าง ๆ กัน หรืออยู่ถัดจากอีกสิ่งหนึ่ง เช่น 

  • She’s sitting next to me. (เธอนั่งอยู่ข้างฉัน)
  • The lamp is next to the sofa. (โคมไฟอยู่ข้างโซฟา)
  • The cat is next to the box. (แมวอยู่ถัดจากกล่อง)
คำบุพบท ความหมาย ตัวอย่าง
Under ใต้,อยู่ด้านล่าง The shoes are under the bed.
Next to อยู่ข้าง ๆ,ติดกับ,ถัดจาก, ถัดไป The chair is next to the table.

คำบุพบทบอกสถานที่ under

“under” (ใต้) คำบุพบทบอกสถานที่ ใช้บอกตำแหน่งที่อยู่ ใต้ สิ่งหนึ่ง หมายความว่าสิ่งของ หรือคนนั้นอยู่ต่ำกว่าสิ่งของอีกชิ้นหนึ่ง หรือใช้เมื่อพูดถึงบางสิ่งที่ถูกปกคลุมด้วยวัตถุอื่น เพื่อบอกสถานการณ์ที่อยู่ภายใต้การควบคุม เช่น 

  • The book is under the chair. (หนังสืออยู่ใต้เก้าอี้)
  • The tunnel is under the mountain. (อุโมงค์อยู่ใต้ภูเขา)
  • The keys are under the pillow. (กุญแจอยู่ใต้หมอน)
  • The dog is sleeping under the table. (สุนัขกำลังนอนอยู่ใต้โต๊ะ)
  • They sheltered under the tree when it rained. (พวกเขาหลบฝนใต้ต้นไม้)
  • The submarine is under the water. (เรือดำน้ำอยู่ใต้น้ำ)

สำนวนหรือการใช้เฉพาะที่เกี่ยวกับสถานที่

  • The road is under construction. (ถนนกำลังก่อสร้างอยู่)
  • Everyone is safe under the roof. (ทุกคนปลอดภัยภายใต้หลังคา)

คำบุพบทบอกสถานที่ next to

“next to” (ถัดจาก) คำบุพบทบอกสถานที่ ใช้เพื่อระบุตำแหน่งที่อยู่ข้าง ๆ หรือ ติดกับ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยไม่มีสิ่งใดขวางกั้น อยู่ติดกันโดยตรง ใกล้เคียงกัน หรือใช้เมื่อพูดถึงการจัดลำดับสิ่งของหรือบุคคล เช่น 

  • The bank is next to the post office. (ธนาคารอยู่ติดกับที่ทำการไปรษณีย์)
  • She’s sitting next to me. (เธอนั่งอยู่ข้างฉัน)
  • The lamp is next to the bed. (โคมไฟอยู่ข้างเตียง)
  • The park is next to the library. (สวนสาธารณะอยู่ติดกับห้องสมุด)
  • My house is next to hers. (บ้านของฉันอยู่ติดกับบ้านของเธอ)
  • He parked his car next to mine. (เขาจอดรถติดกับรถของฉัน)

คำบุพบทบอกสถานที่ “on”
“on” (บน) เป็นคำบุพบทที่ใช้ในการระบุตำแหน่งบน หรือ เหนือ สิ่งของหรือพื้นผิวทางกายภาพ  สถานที่

คำบุพบทบางคำอ้างถึงสถานที่อื่น

นอกจากคำบุพบทที่เราได้พูดถึงไปแล้วอย่าง “in, on, at, under, next to” ยังมีคำบุพบทอื่นอีกหลายคำที่สามารถใช้บอกสถานที่ได้อย่างหลากหลายและเจาะจงมากขึ้น 

คำบุพบท ความหมาย วิธีการใช้ ตัวอย่าง
Beside อยู่ข้าง ๆ ใช้เมื่อสิ่งหนึ่งอยู่ข้าง ๆ หรืออยู่ใกล้กับอีกสิ่งหนึ่งโดยตรง She sat beside me during the meeting. (เธอนั่งข้างฉันในระหว่างการประชุม)
Near ใกล้ ใช้เมื่อสิ่งหนึ่งอยู่ใกล้กับอีกสิ่งหนึ่ง ที่ระยะทางไม่ไกล She sat beside me during the meeting. (เธอนั่งข้างฉันในระหว่างการประชุม)
Between  ระหว่าง  ใช้เมื่อสิ่งหนึ่งอยู่ระหว่างสองสิ่ง The cafe is between the bookstore and the library.(คาเฟ่อยู่ระหว่างร้านหนังสือกับห้องสมุด)
In front of ข้างหน้า  ใช้เมื่อสิ่งหนึ่งอยู่ข้างหน้าอีกสิ่งหนึ่ง There’s a car in front of the house.(มีรถอยู่ข้างหน้าบ้าน)
Behind  ข้างหลัง  ใช้เมื่อสิ่งหนึ่งอยู่ข้างหลังอีกสิ่งหนึ่ง The garden is behind the building.(สวนอยู่ข้างหลังตึก)
Opposite  ตรงข้าม  ใช้เมื่อสิ่งหนึ่งอยู่ตรงข้ามกับอีกสิ่งหนึ่ง The hospital is opposite the pharmacy.(โรงพยาบาลอยู่ตรงข้ามกับร้านขายยา)
Across from    ตรงข้าม, อีกฟากหนึ่ง ใช้เมื่อสิ่งหนึ่งอยู่ตรงข้ามกับอีกสิ่งหนึ่งบนอีกฟากหนึ่ง The bus stop is across from the school. (ป้ายรถเมล์อยู่ตรงข้ามโรงเรียน)
Above เหนือ, สูงกว่า ใช้เมื่อสิ่งหนึ่งอยู่เหนืออีกสิ่งหนึ่งโดยไม่สัมผัสกัน The picture is hanging above the fireplace.(ภาพแขวนอยู่เหนือเตาผิง)
Over  อยู่เหนือ, เกิน, เหนื่อกว่า ใช้เมื่อสิ่งหนึ่งอยู่เหนืออีกสิ่งหนึ่ง โดยมักจะหมายถึงการครอบคลุม The plane flew over the mountains. (เครื่องบินบินเหนือภูเขา)
Below   ต่ำกว่า ใช้เมื่อสิ่งหนึ่งอยู่ต่ำกว่าหรืออยู่ใต้สิ่งหนึ่ง The valley lies below the cliff. (หุบเขาอยู่ต่ำกว่าผาหิน)
Underneath  ข้างใต้ (ลึก หรือถูกปกคลุม)  ใช้เมื่อสิ่งหนึ่งอยู่ใต้สิ่งอื่น และมักหมายถึงการถูกปกคลุม The keys are underneath the couch. (กุญแจอยู่ใต้โซฟา)

การผกผันกับคำบุพบทบอกสถานที่

การผกผันกับคำบุพบทบอกสถานที่ เป็นเทคนิคทางไวยากรณ์ เพื่อสร้างประโยคที่ฟังดูเป็นทางการและเน้นย้ำตำแหน่งที่ตั้งของสิ่งของหรือคน โดยการนำคำบุพบทบอกสถานที่ขึ้นมาไว้ต้นประโยค และสลับที่ของประธานกับกริยาช่วย ในกรณีที่ใช้ คำถาม หรือ คำเน้น คำบุพบทจะถูกวางหลังคำกริยาช่วยหรือคำที่ใช้ในการตั้งคำถาม เช่น is, are, do, does, did เป็นต้น แต่กรณีที่ประธานเป็นสรรพนามส่วนตัว จะไม่มีการใช้การผกผัน มีโครงสร้างของประโยคดังนี้

Adverb of place + V + S + O…

ยกตัวอย่างเช่น

  • She is beside the window. (เธออยู่ข้างหน้าต่าง)
  • Where is she? (เธออยู่ที่ไหน?)
  • The park is next to the mall. (สวนสาธารณะอยู่ติดกับห้าง)
  • Next to the mall is the park. (สวนสาธารณะอยู่ติดกับห้าง)
  • The keys are on the table. (กุญแจอยู่บนโต๊ะ)
  • Aren’t the keys on the table? (กุญแจไม่อยู่บนโต๊ะหรอ?)

คำบุพบทบอกสถานที่ “at”
“At” (ที่) เป็นคำบุพบทบอกสถานที่ ที่ใช้กับพื้นที่หรือสถานที่ เจาะจงชัดเจน หรือ เป็นจุด โดยเน้นถึงความเฉพาะเจาะจงมากกว่าคำบุพบทอื่น   หลักการใช้under, next to
หลักการใช้ "under" และ "next to" ที่เป็นคำบุพบทที่ใช้บ่งบอกตำแหน่งหรือสถานที่ของสิ่งของ 

"Under" (ใต้) มักใช้เพื่อบอกว่ามีสิ่งหนึ่งอยู่ใต้ หรืออยู่ข้างล่าง อีกสิ่งหนึ่ง จะใช้กับคน สัตว์ หรือสิ่งของก็ได้

เรียนกับ KOE ดีอย่างไร 

  • สอนโดยครูเจ้าของภาษา

คุณครูของสถาบันมีคุณครูที่เป็น British จะได้ฟังและฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงการออกเสียงที่ถูกต้องตามธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจและสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างคล่องแคล่ว และยังมีคุณครูอีกหลายชาติทั้ง แอฟริกาใต้ อิหร่าน รัสเซีย KOE ช่วยให้ทุกคนได้พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างรอบด้าน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยความสนุกสนาน โดยเราได้คัดเลือกโค้ชที่ผ่านการรับรองด้านการสอน และมีความสามารถในการสอนภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งยังมีการประเมินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพในการสอนจะไม่ตก ช่วยให้เด็กพัฒนาภาษาได้จริง พร้อมช่วยต่อยอดการใช้ภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้นทุกครั้งที่เรียนอย่างเต็มที่

  • สอนโดยครูมากประสบการณ์ ที่สอนเด็กได้อย่างมืออาชีพ

คุณครูของสถาบันทุกท่านมากไปด้วยประสบการณ์สอนเด็ก มีทักษะและวิธีการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจได้ง่ายและพัฒนาทักษะได้อย่างรวดเร็วอย่างก้าวกระโดด และประสบการณ์สอนในโรงเรียนนานาชาติมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี มีใบ Certificate ที่จบหลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษให้ชาวต่างชาติ ทุกท่านผ่านการเรียน ไม่ต่ำกว่า 120 ชั่วโมง ทำให้มีเทคนิค และจิตวิทยาในการสอนที่หลากหลาย ทำให้เด็กรู้สึกสนุก ไม่น่าเบื่อ อยากเรียนภาษาอังกฤษ และยังคงสามารถปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียนแต่ละคนอีกด้วย ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ตาม

  • สอนโดยการเน้นการโต้ตอบ

การสอนจะเน้นการพูดคุยโต้ตอบ เพื่อให้เด็กๆ คุ้นเคยกับเสียง สำเนียงที่ถูกต้อง พร้อมทั้งควบคู่ไปกับการเรียนตามหลักสูตรนานาชาติที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยเน้นไปที่การฝึกพูด ฟัง อ่าน และเขียน ซึ่งการเขียนขึ้นอยู่กับความเข้าใจของเด็กๆ หากเด็กๆ มีความเข้าใจในบทเรียนแล้วก็จะเลื่อนระดับเรียนในหลักสูตรที่สูงขึ้น

  • เลือกเวลาเรียนตามเวลาที่สะดวกได้แบบยืดหยุ่น

การสอนของสถาบันสามารถเลือกเวลาเรียนที่เหมาะสมกับเด็กๆ ได้ และหากไม่สามารถมาเรียนที่สถาบันสามารถเรียนออนไลน์กับคุรครูได้เช่นกัน เป็นการออกแบบมาเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้เรียนในยุคนี้โดยเฉพาะ

  • คุ้มค่าในการเรียน

KOE มีการให้ใบริการสอนด้วยหลักสูตรที่ถูกคิดค้นมาอย่างดี เพื่อให้ได้รับความคุ้มค่ากับผู้เรียนทุกคน ในราคาที่สมเหตุสมผล เพราะหลักสูตรเรามีการออกแบบให้เหมาะสมกับงบประมาณและสามารถเรียนได้อย่างยาวนาน เพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ที่สำคัญเราให้ความสำคัญกับการติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียนให้สามารถพัฒนาทักษะได้ตามเป้าหมาย

คำบุพบทบอกสถานที่ under
"under" (ใต้) คำบุพบทบอกสถานที่ ใช้บอกตำแหน่งที่อยู่ ใต้ สิ่งหนึ่ง หมายความว่าสิ่งของ หรือคนนั้นอยู่ต่ำกว่าสิ่งของอีกชิ้นหนึ่ง หรือใช้เมื่อพูดถึงบางสิ่งที่ถูกปกคลุมด้วยวัตถุอื่น เพื่อบอกสถานการณ์ที่อยู่ภายใต้การควบคุม

แบบฝึกหัด 

แบบฝึกหัดที่ 1 : เลือกคำบุพบทที่ถูกต้องเติมลงในช่องว่าง

  1. The cat is sitting _____ the table.
  1. a) on
  2. b) in
  3. c) under
  4. d) next to
  1. The book is _____ the shelf.
  1. a) on
  2. b) in
  3. c) under
  4. d) next to
  1. She is standing _____ the door.
  1. a) at
  2. b) in
  3. c) on
  4. d) under
  1. They are sitting _____ the park.
  1. a) at
  2. b) in
  3. c) on
  4. d) under
  1. The keys are _____ the drawer.
  2. a) on
  3. b) in
  4. c) under
  5. d) next to

แบบฝึกหัดที่ 2 : เติมคำบุพบทที่หายไป

  1. My brother is going _____ school now.
  1. She is waiting _____ the bus stop.
  1. I put the glasses _____ the table.
  1. The dog is sleeping _____ the bed.
  1. The picture is hanging _____ the wall.

แบบฝึกหัดที่ 3 : ตอบคำถามโดยใช้คำบุพบท

  1. Where is the phone? (on / the table)
  1. Where are the shoes? (under / the bed)
  1. Where is the car? (in / the garage)
  1. Where are the children playing? (in / the park)
  1. Where is the cat? (under / the chair)

เฉลย

เฉลยแบบฝึกหัดที่ 1

  1. a) on – The cat is sitting on the table.
  2. a) on – The book is on the shelf.
  3. a) at – She is standing at the door.
  4. b) in – They are sitting in the park.
  5. b) in – The keys are in the drawer.

เฉลยแบบฝึกหัดที่ 2

  1. The dog is sleeping on the bed.
  2. The picture is hanging on the wall.
  3. My brother is going to school now.
  4. She is waiting at the bus stop.
  5. I put the glasses on the table.

เฉลยแบบฝึกหัดที่ 3

  1. Where is the phone? (on / the table)
  • The phone is on the table.
  1. Where are the shoes? (under / the bed)
  • The shoes are under the bed.
  1. Where is the car? (in / the garage)
  • The car is in the garage.
  1. Where are the children playing? (in / the park)
  • The children are playing in the park.
  1. Where is the cat? (under / the chair)
  • The cat is under the chair.

“KOE Kingdom of English” เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการสอนภาษาอังกฤษ ที่เน้นประสิทธิภาพและความสนุกสนานจากเจ้าของภาษาตัวจริง ช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการการท่องเที่ยว หรือการสื่อสารกับชาวต่างชาติ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ที่ดีแก่ผู้เรียน ที่จะได้ทั้ง ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน อย่างครบถ้วน ที่สอนโดยครูผู้สอนมืออาชีพ  

หากคุณกำลังมองหาที่เรียนภาษาอังกฤษที่มีคุณภาพและสามารถพัฒนาได้จริง KOE ของเราพร้อมให้คำแนะนำและปรึกษาทักษะด้านภาษา ที่สำคัญทางสถาบันมีการทดลองเรียนฟรี! หากสนใจสามารถทักมาได้ที่เพจ facebook : KOE Kingdom of English – เพจหลัก ได้เลยค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *